อาถรรพ์...พระพุทธรูป - อาถรรพ์...พระพุทธรูป นิยาย อาถรรพ์...พระพุทธรูป : Dek-D.com - Writer

    อาถรรพ์...พระพุทธรูป

    ผู้เข้าชมรวม

    136

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    136

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  อื่นๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 ก.ค. 65 / 15:46 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    อาถรรพ์ พระพุทธรูป

    ต้องบอกคำว่า อาถรรพ์ มันอาจปรากฎขึ้นได้จริงๆ ดังที่ผมจะขอเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น กับเฮียเปี๋ยง เพื่อนบ้านที่อยู่ในห้องแถวติดกันกับบ้านของผม ในเขตเทศบาลเมืองอรัญฯ ซึ่งเขาได้จบชีวิตลง คงน่าจะเป็นเพราะ...อาถรรพ์พระพุทธรูป... ก็อาจเป็นได้

    เฮียเปี๋ยง เป็นบุตรชายคนโตและบุตรชายคนเดียวของครอบครัวของแปะฮุย ครอบครัวนี้ มีบุตรทั้งหมด 7 คน อาชีพของครอบครัวนี้ คือเปิดร้านขายของชำ ที่ตลาดสด โดยไปเช้า-เย็นกลับ และมาพักที่ห้องแถวติดกับบ้านของผมทุกวัน

    เฮียเปี๋ยง เวลานั้นกำลังอยู่ในวัยหนุ่ม หน้าตาหล่อเหลาเอาการ รูปร่างสูงใหญ่ กำยำ เพราะเล่นเพาะกายทุกวัน ผมเห็นเฮียเปี๋ยง แบกข้าวสาร ที่มีน้ำหนัก เกือบร้อยกิโล โดยแบกจากรถบรรทุกข้าว เข้ามาเก็บในบ้าน แม้ระยะทางไม่ไกลนัก แต่น้ำหนักของข้าว ก็ทำเอาคนแบกข้าว แสดงอาการให้เห็นว่า ทั้งเหนื่อยและหนักไม่เบา ทุกครั้งที่รถบรรทุกมาส่งข้าวสารที่บ้านอาแปะฮุย คนงานของรถ กับเฮียเปี๋ยง จะต้องช่วยกันขนและแบกมาเก็บในบ้านที่เช่าที่ห้องแถวห้องที่ซึ่งติดกับบ้านผม

    ..................................................................

    เป็นความบังเอิญ ที่พี่ชายผมได้เข้าเรียนที่ โรงเรียนช่างศิลป์ และมีอายุใกล้เคียงกับเฮียเปี๋ยง ทั้งคู่แม้จะไม่สนิทกันมาก แต่คงเคยแลกเปลี่ยนพูดคุยกันบ้าง เนื่องจากเฮียเปี๋ยงมีความชื่นชอบ และถนัดกับงานศิลปะ เขาจึงวางแผนที่จะเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเพาะช่างให้จงได้

    “ลื้อไปเรียนวาดรูป เขียนรูป มันจะได้อะไร เหรอ... อาเปี๋ยง” เตี่ยของเฮียเปี๋ยงบ่นพึมพำกับลูกชาย

    “ก็อั๊วรัก อั๊วชอบ..น่ะ เตี่ย ข้างบ้านเรา ลูกอาจั๋ม ก็ยังเรียนที่ช่างศิลป์เลย” เฮียเปี๋ยง บอกกับเตี่ย

    “วิชาชีพอื่นๆ มีตั้งเยอะแยะ อย่าง ช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า ช่างซ่อมวิทยุ ทำไมลื้อถึงไม่เรียน” แปะฮุยแนะนำลูกชาย

    “อั๊วไม่ชอบ” เฮียเปี๋ยง บอกกับเตี่ย

    หลังจากที่เฮียเปี๋ยง เรียนจบชั้นมัธยมตอนต้น ได้เดินทางมาสมัครสอบเรียนต่อที่กรุงเทพ จนเรียนจบเพาะช่าง ระดับ ปวส.หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (อนุปริญญาตรี) เมื่อเขาเรียนจบแล้วก็ออกมาประกอบอาชีพ ด้วยการรับจ้าง วาดภาพ และทำงานด้านศิลปะเพื่อเลี้ยงชีพตน งานแรกที่ผมจำได้ คือ ทางมูลนิธิสว่างฯ ได้ว่าจ้างให้เฮียเปี๋ยงวาดภาพเจ้าแม่กวนอิม ฮกลกซิ่ว กวนอู เห้งเจีย ฯลฯ นอกจากนั้นเฮียเปี๋ยงยังได้รับงานวาดฉากคณะลิเก งิ้ว และอื่นๆ นอกจากงานวาด เฮียเปี๋ยงยังรับงานปั้นพระพุทธรูปแล้วแต่ผู้ว่าจ้างจะให้ปั้น

    อายุของเฮียเปี๋ยงในขณะนั้น ประมาณยี่สิบกว่าปี เป็นเพราะเฮียเปี๋ยง ได้เรียนและทำงานเกี่ยวกับศิลปะ เขาจึงมีความรู้เกี่ยวกับ การสร้างสถูป เจดีย์ ต่าง ๆ การทำพระเครื่อง พระบูชา ต่างๆ การที่บ้านผมอยู่ติดกับบ้านเฮียเปี๋ยง ผมจึงมีโอกาส ได้เห็นเฮียเปี๋ยง วาดรูป และผลิตงานปั้นในรูปแบบต่างๆ ออกมาตามใบสั่งจากบุคคลต่างๆ นอกจากเฮียเปี๋ยง จะทำงานด้านศิลปะแล้ว เขายังนิยมสะสมของเก่า และรับเช่าบูชาพระพุทธรูปจากชาวบ้าน เพื่อนำ ไปส่งต่อเซียนพระที่กรุงเทพอีกทอดหนึ่ง

    บ่อยครั้ง...เฮียเปี๋ยง ได้รับการชักชวนจากชาวบ้าน ให้ไปขุดและค้นหาพระพุทธรูป และของเก่าตามวัดร้าง แถวอำเภอต่างๆ ในจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง เรื่องราวในอดีต เกี่ยวกับข่าวร้าย เกี่ยวกับอาถรรพ์พระพุทธ เกิดขึ้นบ่อยๆ ส่วนใหญ่คนที่ไปขุดไปหาไปลักของเก่าและวัตถุโบราณวัตถุ มักจะต้องเสียชีวิตเสมอและมีอันเป็นไปในลักษณะต่างๆ อาทิ ล้มป่วยอย่างไม่มีสาเหตุ สติฟั่นเฟือน เฮียเปี๋ยงมองเรื่องนี้ ว่าเป็นเรื่องของความบังเอิญมากกว่า เขาจึงไม่เชื่อ กอรปกับอาชีพนี้ ทำเงินได้เร็ว เขาจึงไม่แคร์และไม่เชื่อฟังใครๆ ที่ห้ามให้

    ผมจำได้ว่าครั้งที่ หลวงพ่อ วัดแห่งหนึ่ง ที่เป็นเป็นลูกค้า ได้มาจ้างเฮียเปี๋ยงให้ไปวาดภาพในอุโบสถ

    “โยมเปี๋ยง อาตมา อยากขอร้องและขอเตือนว่า โยมเปี๋ยงจงหยุด..กระทำดำเนินการ ในการที่จะจ้างวาน ให้คนอื่นไปขุดหาสมบัติโบราณอีก เพราะสักวัน เจ้าที่เจ้าทางและสิ่งศักดิสิทธิ ที่รักษาองค์พระหรือของเก่า อาจจะโกรธ หรืออาจมีคำสาปแช่ง ทำให้โยม อาจจะต้องสิ้นอายุขัย หรือมีอันเป็นไปก็ได้” หลวงพ่อพูดด้วยความหวังดี

    “  ขอบคุณครับหลวงพ่อ” เฮียเปี๋ยง พูด

    ........................................................................................

    ............ แต่เขา...........ก็ยังทำงานนี้ต่อไป…

    กระบวนความโลภของมนุษย์ ย่อมมากกว่าความกลัวเสมอ เมื่อวันหนึ่งช่วงฤดูฝน เขาได้เหมารถพร้อมกับชาวบ้านอีก 4 คนเพื่อเข้าไปในป่าที่เป็นวัดร้าง แถวอำเภอตาพระยา เพื่อไปขุดหาพระพุทธรูปเก่าๆ แม้ทางครอบครัวเฮียเปี๋ยง จะทัดทาน คัดค้านและห้ามไม่ให้กระทำ

    “เฮีย อั๊ว ไม่อยากให้เฮีย ไปขุดหาของเก่า ที่ในป่าเลย อั๊วเคยฟังเรื่องอาถรรพ์ ที่เศรษฐีเมืองปทุม มาซื้อพระพุทธรูป จากชาวบ้านแถวโคกสูง ซื้อไปได้ไม่ถึงสองวัน ต้องบึ่งรถ เอากลับมาคืน” น้องสาว เฮียเปี๋ยงพูด

    ระหว่างรายได้การวาดรูป หรือปั้นรูปเหมือนต่างๆ ว่าไปแล้วรายได้ ยังน้อยกว่าการไปขุดหาพระพุทธรูป ตามใบสั่งจากกรุงเทพเสียอีก.........................

    และวันที่เฮียเปี๋ยงกับคณะที่ไปขุดพระพุทธรูปก็มาถึง คนงานที่เป็นลูกจ้างเขาทุกคน ได้เตรียมวัสดุอุปกรณ์ เสบียง ครบถ้วน เมื่อได้เวลาอันเหมาะสม เขาจึงให้สั่งให้โชเฟอร์ออกเดินทางไปยังโบสถ์เก่าทันที เมื่อสมัยผมยังเด็กๆ คนหนุ่มๆ แถวบ้านผม มักนิยมเล่นเพาะกายมาก เฮียเปี๋ยงก็เป็นคนหนึ่งที่มีรูปร่าง กำยำ ล่ำสัน มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ วันที่ออกเดินทาง ไม่มีเค้าลางว่าจะเกิดเหตุใดๆ เลย ท้องฟ้าโปร่งแสงสว่างจ้า โดยปกติการไปขุดหาพระพุทธรูปและหาของเก่า ส่วนใหญ่อาจมีการค้างคืนบ้าง หากงานยังไม่สำเร็จลุล่วง และทุกครั้งที่คณะของเฮียเปี๋ยงไปขุดหาของเก่า และพระพุทธรูป ก็ไม่เคยปัญหาใดๆ เลย แต่ครั้งนี้จากคำบอกเล่า จากคนงานที่รอดชีวิต ได้บอกเล่าให้เตี่ยของเฮียเปี๋ยงว่า

    “ ในวันที่เราขุดหาของเก่า ได้มีฝนตกลงเป็นระยะๆ ขณะขุดไป พวกเรา ก็นำผ้าเต๊นท์ มากาง-ขึง กันฝนไปพลางๆ หลังจากขุดพระพุทธรูปนาคจนเสร็จก็อัญเชิญพระพุทธรูป ขึ้นมาบนรถ จากนั้นพวกเราก็เดินทางกลับมาเช่นปกติ” คนงานพูดและหยุดไปสักครู่ จากนั้นจึงเล่าเรื่องต่อ

    “ เมื่อรถออก มาได้ไม่ไกล จากโบสถ์เก่าแห่งนั้น รถยนต์ก็เกิดการติดหล่ม เพราะมีหลุมเป็นแอ่งน้ำที่เป็นดินโคลน รถติดอยู่นานกว่าสามสิบนาที เมื่อรถเข้ามาสู่ถนนหลักแล้ว เฮียเปี๋ยง ก็ได้สั่งให้คนขับรถ ขับให้เร็วที่สุดเพื่อ ต้องการมาอวดเซียนพระว่า ครั้งนี้เขาได้พระพทธรูปที่สวยงามมาก หากพรุ่งนี้สามารถ ทำความสะอาดพระพุทธรูปองค์นี้เสร็จทันช่วงค่ำวันเดียวกัน เขาจะนำพระพุทธรูปองค์นี้มาส่งกับเซียนพระที่กรุงเทพ คนขับจึงเร่งความเร็ว”

    ขณะที่คนงานเล่าเรื่องมาถึงตอนนี้ ท่าทางของเขาดูจะตระหนก และนิ่งไปชั่วครู่

    “แล้วไงอีก เล่าให้ฟังต่อไป” น้องสาวเฮียเปี๋ยงพูด

    “ฝนยังลงเม็ดและหนาขึ้นๆ จนแทบจะมองไม่เห็นถนนเลย จนคนขับต้องชะลอความเร็วลง เหลือระยะทางก่อนถึง อรัญประเทศ 5 กิโลเมตร จู่ๆ รถคันนี้ต้องเบี่ยงหลบล้อเกวียนข้างทางที่กำลังเคลื่อนตัว จนรถยนต์มาชนกับต้นไม้ข้างทางอย่างแรง จนต้นไม้ขนาดใหญ่หัก โชเฟอร์สลบเหมือด มารู้อีกครั้งเมื่อหมอและตำรวจมาตรวจสอบชันสูตรศพว่าเฮียเปี๋ยง ได้สิ้นชีวิตเพราะคอหัก” คนงานพูด

    แทบไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิตเพียงคนเดียวเท่านั้น คือ เฮียเปี๋ยง ที่เหลือบาดเจ็บสาหัสสองคน ต้องตัดขา 1 คนต้องตัดแขน 1 คน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา ความตาย ของเฮียเปี๋ยงในครั้งนี้ คนในเมืองอรัญเชื่อว่า การที่เฮียเปี๋ยงจบชีวิตลง คงน่าจะมาจาก อาถรรพ์ของพระพุทธรูปองค์นั้นอย่างแน่นอน

    เรื่องบางเรื่องอาจลึกลับ.. เกินกว่าที่วิทยาศาสตร์จะจับต้องได้ ดังที่เราได้ยินได้ฟังจากข่าวตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน  ไม่เชื่อ อย่าหลบหลู่... คงเป็นคำพูดชวนคิด... ให้พึงระวังและไม่ประมาทได้เสมอ

    8/1/60     ขลุ่ย บ้านข่อย 

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×